จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

วันจันทร์ที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2562

ระวัง! 5 ยาอันตรายขายเกลื่อนเน็ต เสี่ยงเสียชีวิต



ระวัง! 5 ยาอันตรายขายเกลื่อนเน็ต เสี่ยงเสียชีวิต
       การก้าวเข้ามาของโลกออนไลน์ ทำให้ชีวิตเราง่ายไปหมด อยากได้อะไรเราก็สามารถเลือกซื้อเลือกหา จ่ายเงิน รอรับของที่บ้านเพียงผ่านแค่ปลายนิ้ว และสมาร์ทโฟนเครื่องเท่ามือข้างเดียว แต่เทคโนโลยีนี้ดันเหมือนเหรียญสองด้าน ของที่ไม่ควรขายกันง่ายๆ ก็ดันวางขายกันเกลื่อน หาซื้อได้ง่ายราวกับลูกอม หรือหมากฝรั่ง โดยเฉพาะ ยารักษาโรค” ที่ควรจะให้สิทธิ์ขายแค่เพียงเภสัชกรที่ร่ำเรียนมาหลายปีเพื่อประกอบอาชีพที่เกี่ยวกับยาโดยเฉพาะ
ดังนั้น หากเห็นยาตัวไหนขายในอินเตอร์เน็ต โดยไม่ได้มาจากเภสัชกร ก็ถือว่าเป็นเรื่องผิดแล้ว ยิ่งมาเจอยาอันตรายที่ขายกันเกลื่อนเต็มไปหมด ก็ยิ่งแย่เข้าไปใหญ่ จะมียาอะไรที่เราอาจได้พบเจอ และไม่ควรซื้อมาทานเด็ดขาดบ้าง มาดูคำแนะนำจาก อย. กันค่ะ
ยาอันตรายขายเกลื่อนเน็ต เสี่ยงเสียชีวิต
  1.  ยามหัศจรรย์
   ยามหัศจรรย์มาพร้อมคำโฆษณาชวนเชื่อที่มักใช้คำทำนองว่า “หายขาดแน่นอน” “วิเศษ” “ดีที่สุด” หรือแม้กระทั่ง “ผลงานวิจัยล่าสุด” แต่พอหาข้อมูลจริงๆ กลับไม่เจอ หรือไม่น่าเชื่อถือ หนำซ้ำยังมีส่วนผสมของ “สเตียรอยด์” ที่เป็นสารต้องห้าม ที่ต้องได้รับการควบคุมการใช้จากแพทย์เท่านั้นอีกด้วย
   สเตียรอยด์จะออกฤทธิ์ ทำให้อาการปวดที่มีลดลง รู้สึกมีกำลังวังชาขึ้นมาในเวลาอันสั้น จึงทำให้คนที่ทานยานั้นๆ รู้สึกว่ายาออกฤทธิ์ดี ได้ผลจริง แต่จริงๆ แล้ว หากทานยาที่มีสเตียรอยด์เข้าไปนานๆ อาจทำให้กระเพาะอาหารทะลุ ลดภูมิต้านทานโรคในร่างกาย ร่างกายติดเชื้อได้ง่าย บดบังอาการของโรค ทำให้วินิจฉัยโรคได้ยากขึ้น และหากมีอาการหนัก หัวใจอาจเต้นผิดจังหวะ หรือหยุดเต้น จนทำให้เสียชีวิตได้
       2.อาหารเสริมลดความอ้วน
มาพร้อมกับคำโฆษณาชวนเชื่อว่า “ลดจริง พิสูจน์ได้” “รับประกัน ไม่โยโย่” “กิโลภายใน 1 อาทิตย์” หรือ “ดื้อยาก็ลดได้” จริงๆ แล้วส่วนใหญ่มักใส่สารไซบูทรามีน ที่ออกฤทธิ์ต่อประสาทส่วนกลาง ทำให้ไม่รู้สึกอยากอาหาร แต่เมื่อทานไซบูทรามีนติดต่อกันนานๆ จะทำให้เกิดอาการติดยา ประสาทหลอน ไตวาย ระบบทางเดินอาหารผิดปกติ หัวใจขาดเลือด หลอดเลือดตีบตัน จนอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้
  1. อาหารเสริมเร่งผิวขาว
มาพร้อมกับคำโฆษณายั่วเงินในกระเป๋าของคุณผู้หญิงหลายคนที่อยากขาวว่า “ขาวออร่า” “ขาวอมชมพู” “14 วัน ขาว เนียน ใส ไรฝ้า” “สวยขาวจากภายในสู่ภายนอก” จริงๆ แล้วอาหารเสริมประเภทนี้ส่วนใหญ่มักลักลอบใส่ยาที่มีฤทธิ์ห้ามเลือด โดยนำผลข้างเคียงของมาใช้รักษาฝ้า หรือทำให้ผิวขาวขึ้น ทั้งที่ยังไม่มีผลวิจัยยืนยันอย่างแท้จริง
นอกจากนี้ หากทานติดต่อกันนานๆ อาจมีอันตรายทำให้เกิดลิ่มเลือด จนอุดตันเส้นเลือดต่างๆ ในร่างกาย หากลิ่มเลือดไปอุดตันที่ปอด อาจทำให้หายใจไม่ออก หรือหากลิ่มเลือดไปอุดตันที่เส้นเลือดในสมอง ก็อาจทำให้เสียชีวิตได้
  1. ครีมทาสิว ฝ้า หน้าขาว
มาพร้อมกับโฆษณาว่า “ขาวจริงใน วัน” “ขาวใสขั้นเทพ” หรือ “ขาวจริง ขาวไว” ที่ขาวได้ขนาดนี้ เพราะผู้ผลิตมักลักลอบผสมสารอันตรายเข้าไปหลายตัว ไม่ว่าจะเป็นไฮโดรควิโนน ปรอทแอมโมเนีย สเตียรอยด์ กรดวิตามินเอ ที่ทำให้หน้าขาวเร็ว แต่มีความเสี่ยงที่จะเกิดอาการแพ้ ผื่นขึ้น สิวบุก ผิวหน้าลอก ไวต่อแสงเกินไป จนหน้าพังถาวรได้
 5. อาหารเสริมสมรรถภาพทางเพศ
มาพร้อมคำโฆษณาที่ยั่วกิเลสท่านชายว่า “ใหญ่ยาว เพิ่มขนาด” “อึด ทน นาน” หรือ “ทำจากสมุนไพรธรรมชาติ” แต่ความเป็นจริงแล้วลักลอบผสมซิลเดนาฟิล ซึ่งเป็นยาที่ต้องใช้ภายใต้การควบคุมของแพทย์เท่านั้น นอกจากนี้ยังมีผลข้างเคียง เช่น ปวดศีรษะ หน้าแดง มึนงง เกิดอาการช็อก หัวใจวายเฉียบพลัน และอาจเสียชีวิตได้
   นอกจากนี้กลุ่มยาแก้ไอ แก้ปวด แก้แพ้ ที่ลักลอบขายอย่างผิดจุดประสงค์ คือ ขายยาเพื่อใช้เสพเป็นของมึนเมา โดยมาพร้อมโฆษณาว่า “เมาง่าย” “ราคาไม่แพง” “ไม่ขม” “ไม่ใช่ยาเสพติด ฉี่ไม่ม่วง” หรือ “ครูไม่รู้ ตำรวจไม่จับ” เช่น ยาทรามาดอลทานร่วมกับยาน้ำเชื่อมแก้แพ้ แก้ไอ หรือที่เรียกว่า “ยาโปร” จะส่งผลต่อสุขภาพทั้งระยะสั้น และระยะยาว และเกิดการเสพติดได้
   ผลร้ายต่อร่างกาย คือ หากทานเป็นเวลานาน จะเกิดอาการประสาทหลอน ระบบประสาททำงานช้าลง และหากได้รับยาเกินขนาด อาจทำให้ชัก เกร็ง กล้ามเนื้อกระตุก หัวใจหยุดเต้น จจนอาจเสียชีวิตได้ ทางที่ดีคือ ก่อนซื้อยาทาน ควรปรึกษาเภสัชกรทุกครั้ง และหากมีอาการเจ็บป่วย ควรพบแพทย์เพื่อการวินิจฉัยโรคที่ถูกต้อง อยากลดน้ำหนัก ต้องควบคุมอาหาร และออกกำลังกาย อยากขาวต้องใช้ครีมกันแดด และอย่าใช้ยาผิดประเภท จะได้ไม่เสี่ยงอันตรายถึงชีวิตก่อนวัยอันควรค่ะ
ขอขอบคุณ
ข้อมูล : อย.

5 สัญญาณอันตราย ควรหยุดใส่ “คอนแทคเลนส์” ทันที


5 สัญญาณอันตราย ควรหยุดใส่ “คอนแทคเลนส์” ทันที

5 สัญญาณอันตราย ควรหยุดใส่ “คอนแทคเลนส์” ทันที

    คอนแทคเลนส์ในสมัยนี้เป็นมากกว่าอุปกรณ์ที่ช่วยให้การมองเห็นของคนสายตาสั้นดีขึ้น แต่ยังครอบคลุมไปถึงผู้ที่รักการแต่งตัว รักแฟชั่น อยากมีดวงตาเป็นสีๆ เป็นประกายลวดลายสวยๆ หรือแม้แต่การแต่งตัวคอสเพลย์เป็นการ์ตูนตามแฟชั่นญี่ปุ่น
   แต่จะเป็นเรื่องหายนะทันทีถ้าผู้ที่สวมใส่คอนแทคเลนส์เลือกสวมใส่คอนแทคเลนส์ที่ไม่ได้มาตรฐาน และ/หรือใช้คอนแทคลนส์ไม่ถูกวิธี รวมไปถึงการรักาความสะอาดของคอนแทคเลนส์ที่ไม่เพียงพอ จนทำให้เกิดอาการผิดปกติ ถึงขั้นต้องผ่าตัด หรือสูญเสียการมองเห็นไปอย่างถาวรได้
 สัญญาณอันตราย ควรหยุดใส่ “คอนแทคเลนส์” ทันที
  1. ตาแห้งมากผิดปกติ
ในรายที่ใส่คอนแทคเลนส์แล้วมีอาการตาแห้ง อาจใช้น้ำตาเทียมหยอดเพื่อช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับดวงตาได้ แต่หากมีอาการตาแห้งมากผิดปกติ หรือน้ำตาเทียมก้เริ่มเอาไม่อยู่ ดวงตาอาจเริ่มมีอาการผิดปกติได้
  1. ตาแดง เคืองตา ขี้ตาเหนียว มีเศษโปรตีนเกาะที่ตา และคอนแทคเลนส์
อาการนี้เป็นสัญญาณของการอักเสบของกระจกตา และเยื่อบุตา ซึ่งนอกจากอาการดังกล่าวแล้ว ยังอาจทำให้เกิดภาพมัวได้เช่นกัน
  1. มีตุ่มอักเสบที่เปลือกตาด้านใน
นอกจากจะพบตุ่มอักเสบแล้ว ยังอาจพบอาการข้างเคียงอื่นๆ ร่วมด้วย ได้แก่ ตาแดง ระคายเคือง ตาไม่สู้แสง และอาจมีภาวะหนังตาตกร่วมด้วย
  1. เกิดจุดเล็กๆ ที่ตาดำ
   เป็นอาการจากเยื่อบุผิวกระจกตาอักเสบ ที่เกิดจากบาดแผล หรืออาการช้ำของเยื่อตาในขณะที่ตาแห้ง มีอาการแพ้ หรือขาดออกซิเจนจากการใส่คอนแทคเลนส์นานๆ หรือคอนแทคเลนส์ที่ได้มาตรฐาน ค่าอมน้ำต่ำ และ/หรือออกซิเจนถ่ายเทไม่สะดวก สิ่งที่อันตรายไปกว่าจุดเล็กๆ คือ หากมีแผลเป็นจุดเล็กๆ หลายจุดมารวมกัน อาจกลายเป็นแผลใหญ่ที่อาจติดเชื้อได้ง่าย ซึ่งจะเป็นอันตรายมาก
  1. ตาแดง เคืองตา ตาสู้แสงไม่ได้ มีขี้ตามาก น้ำตาไหลตลอดเวลา และ/หรือมีหนองในช่องหน้าม่านตา
    เป็นอาการของกระจกตาติดเชื้อ ที่เมื่อตรวจกับจักษุแพทย์ อาจจะพบจุดขาวที่กระจกตา กระจกตาฝ้า กระจกตาบาง หรือบวมร่วมด้วย
    อาการนี้มักพบได้บ่อย และมาจากหลายสาเหตุ ทั้งจากการดูแลรักษาความสะอาดเลนส์ของตัวผู้ใช้เอง จากคุณภาพของเลนส์ที่ไม่ได้มาตรฐาน น้ำยาล้างคอนแทคเลนส์ที่อาจไม่ได้มาตรฐาน คอนแทคเลนส์ หรือน้ำตาล้างคอนแทคเลนส์หมดอายุ หรือใส่คอนแทคเลนส์ข้ามคืน
contact-lens-2.jpg

วิธีเลือกคอนแทคเลนส์ให้ปลอดภัย
    ควรดูชื่อผลิตภัณฑ์ และวัสดุที่ใช้ทำคอนแทคเลนส์ เป็นซิลิโคนจะนิ่ม และใส่ง่าย ดูขนาดของเลนส์ที่ไม่ควรใหญ่เกินไป DIA หรือเส้นผ่าศูนย์กลางอยู่ที่ 14-15 mm. ความโค้งของเลนส์ หรือค่า BC. ควรจะเหมาะสมกับความโค้งของกระจกตาเรา ค่ามาตรฐานความโค้งของเลนส์ตามท้องตลาดอยู่ที่ 8.6 แต่ผู้ใช้ควรวัดความโค้งของกระจกตาตัวเองก่อนใส่ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาคอนแทคเลนส์ไม่พอดีตา จนอาจทำให้คอนแทคเลนส์หลุดง่าย หรืออาจบีบตาดำมากเกินไปจนระคายเคืองตา
นอกจากนี้ควรตรวจสอบวันเดือนปีที่หมดอายุ เลขที่ อย. และเลขที่ใบอนุญาตเครื่องมือแพทย์ด้วย
 วิธีใช้คอนแทคเลนส์อย่างถูกต้อง
  1. พบจักษุแพทย์ เพื่อตรวจสุขภาพตาก่อนว่าสามารถใส่คอนแทคเลนส์ได้หรือไม่ ควรเลือกคอนแทคเลนส์แบบใดถึงจะเหมาะสม
  2. ก่อนถอดคอนแทคเลนส์ ควรล้างมือให้สะอาดด้วยสบู่ หรือน้ำยาล้างมือทุกครั้ง รวมถึงควรตัดเล็บให้สั้นก่อนถอด-ใส่คอนแทคเลนส์
  3. ควรถอดคอนแทคเลนส์ออกมาล้างทุกวัน ล้างด้วยน้ำยาล้างคอนแทคเลนส์เท่านั้น
  4. วิธีล้างคอนแทคเลนส์ ถอดคอนแทคเลนส์วางไว้บนฝ่ามืออย่างนุ่มนวล เทน้ำยาล้างคอนแทคเลนส์ลงบนเลนส์ราว 5-10 หยด ใช้ปลายนิ้วถูเอาคราบลื่นๆ ที่เป็นคราบโปรตีนออกเบาๆ หยิบคอนแทคเลนส์ใส่ตลับคอนแทคเลนส์ที่ล้างให้สะอาดด้วยน้ำยาล้างคอนแทคเลนส์ เทน้ำยาแช่คอนแทคเลนส์ให้ท่วมเลนส์ และปิดฝาทุกครั้ง
  5. ควรเปลี่ยนตลับใส่คอนแทคเลนส์ทุกๆ 3 เดือน
  6. ไม่ควรใส่คอนแทคเลนส์ขณะนอนหลับ และขณะว่ายน้ำ
  7. หากมีอาการผิดปกติเมื่อใช้คอนแทคเลนส์ ควรหยุดใช้ แล้วปรึกษาแพทย์ทันที
 ถึงแม้ว่าคอนแทคเลนส์จะเป็นนวัตกรรมที่ช่วยให้ผู้ที่มีสายตาผิดปกติสามารถใช้ชีวิตได้อย่างสะดวกสบายขึ้น แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะสามารถใช้คอนแทคเลนส์ได้อย่างปลอดภัย ดังนั้นก่อนใช้คอนแทคเลนส์ ควรปรึกษาจักษุแพทย์ เพื่อรับการตรวจ และคำแนะนำจากแพทย์ก่อนใช้นะคะ

5 อาหารต้านมะเร็งราคาถูก หาทานง่าย


5 อาหารต้านมะเร็งราคาถูก หาทานง่าย

5 อาหารต้านมะเร็งราคาถูก หาทานง่าย

อาหารต้านมะเร็ง ไม่จำเป็นต้องมาในรูปแบบของแคปซูล หรือธัญพืชจากเมืองนอกราคาแพงๆ เสมอไป เพราะพืชผักผลไม้ในบ้านเรานี่แหละ ที่เป็นยาชั้นดีที่จะช่วยป้องกันโรคได้สารพัด รวมไปถึงโรคที่ทุกคนกลัวอย่างโรคมะเร็งด้วย มีอาหารชนิดใดที่น่าสนใจบ้าง ไปดูกันค่ะ

tomatoes
  1. มะเขือเทศ
มะเขือเทศจัดเป็นผักชนิดหนึ่งที่มีสีอื่นนอกไปจากสีเขียว สีแดงขิงมะเขือเทศบ่งบอกว่า มะเขือเทศเป็นพืชที่มีคุณค่าทางสารอาหารแตกต่างไปจากผักสีเขียวตามปกติ นั่นก็คือ “ไลโคปีน” นั่นเอง ไลโคปีนเป็นสารต้านอนุมูลอิสระชนิดหนึ่งที่ช่วยลดความเสี่ยงของมะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งกระเพาะอาหาร  มะเร็งปอด เป็นต้น เพราะฉะนั้นถึงมีคำกล่าวว่า ผู้ชายให้ทานมะเขือเทศปรุงสุก (เพื่อป้องกันมะเร็งต่อมลูกหมาก) และผู้หญิงให้ทานมะเขือเทศสด (เพื่อรับวิตามินซีมาบำรุงผิวพรรณ)
garlics
  1. กระเทียม
กระเทียมเป็นหนึ่งในกลุ่มของผักสีขาวที่มีสารบีตาแคโรทีน ช่วยกระตุ้นการทำงานของร่างกายให้ช่วยป้องกันมะเร็งได้ดีขึ้น งานวิจัยพบว่า การบริโภคกระเทียมช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งหลอดอาหาร มะเร็งตับอ่อน และมะเร็งเต้านมได้
butterfly-pea
  1. ดอกอัญชัญ
ดอกอัญชัญจัดว่าเป็นพืชตระกูลสีม่วง ที่มีสารแอนโทไซยานิน ที่ช่วยป้องกันโรคเรื้อรังต่างๆ ได้เป็นอย่างดี เช่น โรคที่เกี่ยวกับหลอดเลือดหัวใจ โรคมะเร็ง และเบาหวาน นอกจากนี้ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่นอกจากจะช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็งแล้ว ยังช่วยบำรุงผิวพณณ์ให้ชุ่มชื่นอีกด้วย
pineapple
  1. สับปะรด
สับปะรดนอกจากจะให้รสชาติหวานฉ่ำแซมเปรี้ยวที่เรียกความสดชื่นให้กับร่างกายได้ตั้งแต่ทันทีที่ทานแล้ว ยังเต็มไปด้วยวิตามินซี เบตาแคโรทีน และแมงกานีส ที่ช่วยป้องกันอันตรายจากอนุมูลอิสระ ที่เป็นสาเหตุของโรคมะเร็ง และยังช่วยทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานได้ดีขึ้นอีกด้วย
brown-rice
  1. ข้าวกล้อง
ความดีงามของข้าวกล้องให้อธิบายยังไงก็ไม่หมดจริงๆ นอกจากจะเป็นแหล่งคาร์โบไฮเดรต หรือแป้ง ที่ดีต่อร่างกายของเรา เหมาะสำหรับใครอยากลดน้ำหนัก หรืออยากหันมาทานคลีนแล้ว ยังมีวิตามินบีที่ช่วยป้องกันโรคเหน็บชา ปากนกกระจอก มีเส้นใยอาหารที่ช่วยในเรื่องของการขับถ่าย ป้องกันโลหิตจาง และยังลดความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่อีกด้วย
เห็นไหมล่ะคะ ว่าอาหารที่ช่วยต้านมะเร็ง อยู่ใกล้ๆ ตัวเราทั้งนั้น แล้วยังหาซื้อทานได้ง่าย ราคาย่อมเยา ไม่มีความจำเป็นต้องไปซื้ออาหารเสริม หรือธัญพืชจากต่างประเทศก็ได้ แต่ถ้าใครสะดวกหาทานแบบไหน ก็เอาตามที่สบายใจจะดีกว่าค่ะ ถือว่าเพิ่มเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับคนที่ไม่อยากจ่ายเงินเยอะแล้วกันเนอะ สิ่งสำคัญคือทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และพักผ่อนให้เพียงพอ เท่านี้ไม่ว่าโรคไหนก็ไม่เข้ามากร้ำกรายแล้วล่ะค่ะ

22 ไอเดีย แบบโรงรถโมเดิร์นสวยๆ เพื่อรถคันโปรดของคุณ



    วันนี้เรานำเสนอไอเดีย แบบโรงรถโมเดิร์นสวยๆ  ที่เรานำมาฝากดพื่อนๆ http://autocarnano.com
 แบบโรงรถหน้าบ้านและแบบโรงรถแยกจากตัวบ้าน ประโยชน์ของโรงรถ เพื่อรถคันงามของคุณ
โรงรถนั้นก็มีความสำคัญอย่างหนึ่งในการเก็บรักษารถ ของเราเป็นอย่างมาก เพราะเราคงไม่ดีแน่ ถ้าเราจะปล่อยให้รถราคาแพงของเรามาตากลม ตากฝน ทนแดนร้อน ทำร้ายสีของรถ เครื่องยนต์ ระบบไฟฟ้าต่างๆ ากบ้านที่มีบริเวณบ้านการสร้างโรงเก็บรถไว้
โรงรถนอกจากเป็นที่จอดรถ ยังเป็นที่ที่เราจะได้ ซ่อม บำรุง ดูแลรักษารถ เก็บอุปกรณ์เกี่ยวกับรถไปในตัว ฉนั้น โรงรถจะต้อง คำนึงถึงการกันแดดกันฝนให้กับรถของเรา แสงสว่างและการระบายอากาศ ในการเก็บรักษารถ ให้เราอยู่กับเราไปนานแสนนาน

เราไปดูดีไซน์ของโรงจอดรถในแต่ละรูปแบบกันเลยดีกว่าว่าจะมีแบบไหนที่ถูกใจวันนี้ Autocarnano เพื่อเป็นแนวทางการสร้างโรงรถ นอกจากจะเป็นการดูลรถคันโปรดแล้ว ยังถือเป็นการตกแต่งบ้าน เพราะเดียวนี้ มีการสร้างโรงรถที่มีความสวยงาม แบบต่างออกมาให้เห็น
หลากหลายอยู่ในบ้านเรา ไปชมกันเลยจ้า




















5 อาหารเพื่อสุขภาพ ทานมากไปกลับทำร้ายตัวเอง!



5 อาหารเพื่อสุขภาพ ทานมากไปกลับทำร้ายตัวเอง!

       สาวๆ หนุ่มๆ สายเฮลธ์ตี้ รักสุขภาพ คงสนุกกับการช้อปปิ้งอาหารคลีนอย่างมีความสุข อะไรที่เขาว่าดีก็จัดมาให้ครบอย่าให้ขาด จะได้สุขภาพดีอย่างที่หวัง แต่ที่ไหนได้ ซุปเปอร์ฟู้ดที่ว่าเทพ ทานมากๆ ก็ให้โทษกับร่างกายได้เหมือนกัน เพื่อนๆ แอบซื้ออะไรมาทานบ้างหรือเปล่า เช็คด่วน
เวย์ โปรตีน Whrey Protein
1. 
เวย์โปรตีน        อาหารเพื่อสุขภาพลำดับต้นๆ ที่ชาวฟิตเนสหลายคน โดยเฉพาะคุณผู้ชายต้องบริโภคอยู่ตลอด เพื่อต้องการสร้างกล้ามเนื้อให้เห็นชัดๆ แต่หากทานเวย็โปรตีนมากเกินไป หรือติดต่อกันเป็นเวลานานเกินไป อาจเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคกระดูกพรุน ตับและไตอาจทำงานหนักจนล้มเหลวได้

เมล็ดเจีย Chia Seed
2. 
เมล็ดเจีย       ใครที่กำลังรักษาหุ่นเพรียว มักวิ่งมาหาเมล็ดเจีย ลักษณะคล้ายเม็ดแมงลัก แต่สารอาหารมากกว่าหลายเท่า ให้ความอิ่มท้องแต่ให้พลังงานแคลอรี่ต่ำ แต่หากทานมากเกินไปอาจมีอาการท้องอืด และคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับกระเพาะอาหาร และลำไส้ เช่น มีแก๊สในกระเพาะอาหาร แสบร้อนกลางอก กรดไหลย้อน อาจทำให้ตับอ่อนยิ่งกระตุ้นการสร้างน้ำย่อยออกมามากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังไม่เหมาะกับคนที่มีความดันต่ำ หญิงตั้งครรภ์ และผู้ชายที่มีปัญหาต่อมลูกหมากอีกด้วย
ควินัว Quinua
3. 
ควินัว       อีกหนึ่งซุปเปอร์ฟู้ดที่คนรักสุขภาพต้องรู้จัก ควินัวทานได้เหมือนข้าว หรือจะโรยบนสลัด ทำอาหารทานแทนคาร์โบไฮเดรตอื่นๆ ก็ยิ่งดี สารอาหารดีๆ เพียบ แต่อย่าลืมควินัวเป็นอาหารที่ให้พลังงานสูง เห็นเม็ดเล็กๆ แบบนี้ ควินัว 1 ถ้วยให้พลังงาน 110 กิโลแคลอรี่ เพราะฉะนั้นจะหุงเป็นหม้อๆ ทานมื้อละ 2-3 ทัพพีก็อาจได้รับพลังงานมากจนเกินไปนั่นเอง
เมล็ดแฟล็กซ์ Flaxseed
4. 
เมล็ดแฟลกซ์       เมล็ดแฟลกซ์ หรือแฟล็กซ์ซีดมีฤทธิ์ลดการจับตัวกันของเลือด เพราะฉะนั้นใครที่กำลังทานยาที่ช่วยลดการจับตัวของเลือดอยู่ อาจจะต้องงดแฟล็กซ์ซีดไปก่อน นอกจากนี้หญิงตั้งครรภ์ และคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับลำไส้ อาจจะไม่เหมาะกับการทานแฟล็กซ์ซีดเท่าใดนัก
อโวคาโด Avocado
5. อโวคาโด้       ใครมีเงินขึ้นมาอีกหน่อย อาจจะติดอกติดใจเจ้าผลเขียวๆ นี้ ด้วยรสชาติมันๆ ที่ฝรั่งสายเฮลธ์ตี้มักนำมาทาขนมปังทานแทนเนย คนไทยบางคนชอบเอาไปปั่นสมูธตี้แทนผลไม้รสหวานอื่นๆ แต่หากทานอโวคาโด้มากๆ ก็อ้วนได้นะ เพราะเป็นผลไม้ที่ให้พลังงานสูงใช้ได้ 1 ลูก ให้พลังงาน 300 กว่ากิโลแคลอรี่เลยเชียว
       อย่างที่หลายๆ คนน่าจะเคยได้ยินกันมาบ้าง ว่าทุกอย่างต้องเดินทางสายกลาง ทานอาหารที่มีประโยชน์ได้ แต่ต้องทานแต่พอดี และเลือกทานให้หลากหลายเข้าไว้ จะได้ไม่ทานอะไรๆ ซ้ำเดิม จนของมีประโยชน์กลับกลายเป็นให้โทษต่อร่างกายไปเสียอย่างนั้น น่าเสียดายแทนนะคะ